Home Articles ตอนที่ 2 “ผมคือของดีในมอ…ครับ” ตอนที่ 2 “ผมคือของดีในมอ…ครับ” November 22, 2019 989 Facebook Twitter [ สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จ.นครสวรรค์ 10 ปีก่อน ปี 2553] เด็กผู้ชาย 2 คนกำลังใช้นิ้วทำท่าเป็นสัญลักษณ์อะไรบางอย่าง นั่งเล่นกันที่สนามหญ้า [ วอน ] เพื่อนของฝุ่น “ถ้าวอนไม่มีฝุ่นวอนคงแย่เนอะ” เด็กน้อยนามว่าวอนพูดพร้อมกับนั่งพิงหลังของฝุ่นไปด้วยอย่างอ้อนๆ โป๊ก!! “คิดมากเรื่องอะไรอีกล่ะวอน ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่นี่เราก็สนิทกับวอนที่สุดอยู่แล้ว” ฝุ่นปรับมือจากท่าที่เห็น หันมาแจกมะเหงกให้วอนไปทีก่อนจะพูด “เรากลัวอ่ะฝุ่น ถ้าวันหนึ่งเราต้องแยกกันเราจะทำยังไงวะ” วอนพูดพร้อมกับก้มหน้าลงด้วยแววตาละห้อย “ก็ถ้าเราต้องแยกจากกัน…ก็แสดงว่าไม่ฉันก็แกคงถูกผู้ใหญ่ใจดีมารับไปเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมแล้วไง ได้ออกจากที่นี่แกไม่ดีใจหรอกหรือ” ฝุ่นว่าพร้อมกับจับที่หัววอนแล้วโยกหัวของเพื่อนตนเองไปเบาๆ “ครอบครัวที่ไม่มีฝุ่นจะเป็นยังไงน๊า…” วอนบ่นเบาๆ ในลำคอ พร้อมเปลี่ยนท่าหันมามองหน้าฝุ่น เรื่องที่พวกเขาทั้งคู่คุยกันวันนั้นใครจะไปคิดว่ามันจะเกิดขึ้นมาจริง ๆ เมื่อวันหนึ่งมีครอบครัวใจดีครอบครัวหนึ่งมารับตัววอนไปดูแลเป็นลูกบุญธรรม และเขาต้องไปไกลถึงประเทศอังกฤษ และวันที่วอนต้องเดินทางไปพร้อมกับครอบครัวใหม่นั้น ทุกอย่างมันไวมาก เขาต้องไปโดยไม่ทันได้ล่ำลาฝุ่นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเขาเลย ( เพราะวันนั้นฝุ่นต้องไปเป็นตัวแทนเข้าค่าย รณรงค์เด็กคุณธรรมที่กรุงเทพฯ ) สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จ.นครสวรรค์ ปี 2555 2 ปีผ่านไป หลังจากวอนจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า วันนั้นเป็นวันสำคัญของทั้งฝุ่นและวอน คือวันคล้ายวันเกิด วันที่ 14 ก.พ. 2555 ก่อนเวลา 14.02 น. [ แม่ปอ] แม่ใหญ่ที่เลี้ยงดูเด็กกว่า 30 ชีวิตในสถานเลี้ยงเด็กำพร้า “ฝุ่นไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วจ้าวอน” เสียงผู้หญิงใจดีรอดออกมา ฝุ่นมีครอบครัวอุปถัมป์มารับไปอุปการะแล้วจ่ะ” แม่ปอที่อยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้ายื่นหน้าออกมาจากห้องประชุมเล็กๆ ด้วยสีหน้านิ่งๆ เรียบๆ “แล้วมีที่อยู่ติดต่อมั้ยครับ” “เอิ่มแม่ไม่สามารถบอกได้จริงๆจ่ะ รู้แต่ฝุ่นเค้าไปอยู่ที่ กรุงเทพฯ แถวย่านเจริญนคร นะ” “ครับผมเข้าใจ งั้นผมฝากของไว้หน่อยนะครับ แม่.” เผื่อฝุ่นกลับมาหาบอกว่าผมจะรอจดหมายจากเค้านะครับ วอนเดินทางกลับมาที่เมืองไทย และสถานที่แรกที่วอนนึกถึงก็คือที่นี่ แต่กลับพบว่าตอนนี้ฝุ่นเพื่อนที่สนิทที่สุดของเค้าไม่ได้อยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนี้แล้ว “ผมฝากจดหมาย แล้วก็ที่อยู่ติดต่อไว้หน่อยได้ไหมครับเผื่อฝุ่นกลับมาบอกให้เขาติดต่อกลับหาผมด้วยนะครับ” พูดจบผมก็หยิบกระดาษกับปากกาเพื่อเขียนจดหมายพร้อมข้อมูลติดต่อของผมฝากไว้ให้กับฝุ่น ใส่ซองปิดผนึก แล้วเขียนหน้าซองว่า จาก วอน ปิติ (รัตนบุญ ) อาร์คูส ถึง ฝุ่น ธนน แสงไทย 14 ก.พ. 2555 หวังว่าวันหนึ่งเราจะได้เจอกันอีกครั้ง [ ห้องพยาบาลของคณะวิศวกรรมศาสตร์ ] “อ้าวน้องฝุ่น…ว้าย!!ใครเป็นอะไรคะน้องฝุ่น” พี่โอ๋เจ้าหน้าที่ของห้องพยาบาลทักผมทันทีที่เห็นผมเดินเข้ามาในห้องพยาบาล โดยมีเจ้าตัวยุ่งในอ้อมแขนที่อยู่ ๆก็เป็นลมขึ้นมาก่อนหน้านี้จนผมต้องพามาห้องพยาบาลของคณะ [ ฝุ่น ] “เป็นลมในลิฟท์น่ะครับพี่โอ๋” ผมตอบพร้อมกับวางร่างของคนในอ้อมแขนลงบนเตียงก่อนที่เจ้าหน้าที่ของห้องพยาบาลจะเข้ามาดูอาการ “อาการเป็นอย่างไรบ้างครับพี่โอ๋” ผมชะโงกหน้าเข้าไปดูพี่โอ๋ตรวจดูอาการของเจ้าตัวยุ่งพร้อมกับถาม [ พี่โอ๋ พยาบาล ] “แค่เป็นลมธรรมดาน่ะจ้ะ เดี๋ยวให้นอนพักสักครู่ก็คงดีขึ้น” พูดจบพี่โอ๋ก็ค่อยๆปลดเนคไทของเจ้าตัวยุ่งออก ก่อนจะปลดกระดุมเสื้อสองเม็ดบนให้ ดูจากการแต่งตัวแล้วน่าจะเป็นเด็กปีหนึ่ง แต่หน้าตาไม่คุ้นคาดว่าน่าจะไม่ใช่รุ่นน้องในคณะของผม แล้วเด็กนี่มาทำอะไรที่คณะของผมกัน ผมพูดกับตัวเองในใจ ผมมัวแต่พิจารณาเจ้าตัวยุ่งบนเตียงจนไม่ทันฟังว่าพี่โอ๋พูดอะไรจนพี่โอ๋ต้องเรียกชื่อของผมซ้ำอีกครั้ง [พี่โอ๋] “น้องฝุ่นคะ…น้องฝุ่น” [ฝุ่น] “อะ…คะ…ครับ…ครับพี่โอ๋” “เหม่ออะไรจ๊ะ พี่บอกไปเมื่อครู่ได้ยินพี่ไหมค่ะ” พี่โอ๋ถามยิ้มๆจนผมต้องรีบถามพี่โอ๋กลับไปอย่างละล่ำละลัก “เมื่อครู่พี่โอ๋พูดว่าอะไรนะครับ” “พี่บอกว่า พี่จะขอฝากเราอยู่เป็นเพื่อนน้องเค้าสักครู่ได้ไหม พี่จะขอเอายาไปให้ท่านคณบดีที่ห้องทำงานท่านหน่อย ไม่เกิน 20 นาที เดี๋ยวพี่รีบกลับลงมานะ” พี่โอ๋ถามอย่างเกรงใจ ผมจึงเหลือบมองที่นาฬิกาบนผนัง เมื่อดูเวลาแล้วพบว่าถ้าครึ่งชั่วโมงผมยังพอไปทำงานพิเศษที่ร้านพี่ภัทรทัน ผมจึงรับปากไป “ได้ครับพี่โอ๋เดี๋ยวผมอยู่เฝ้าไอ้เด็กนี่ให้ครับ” เมื่อได้ยินดังนั้นพี่โอ๋จึงกล่าวขอบคุณผมแล้วรีบเดินไปจัดยาเพื่อนำไปให้ท่านคณบดีที่ห้องทำงาน หลังจากที่พี่โอ๋ออกไปจากห้องแล้วผมจึงเดินไปนั่งยังเตียงนอนที่ตั้งอยู่ข้างๆกับเตียงนอนของเจ้าตัวยุ่งนี่ และเพราะไม่มีอะไรทำผมก็เลยนั่งมองหน้าของเจ้าเด็กนี่ไปเรื่อยๆ มองไปมองมาเจ้าเด็กนี่ก็หน้าตาดีใช้ได้เหมือนกันนะ มิน่าพี่โอ๋ถึงได้ให้ผมช่วยอยู่เป็นเพื่อนเจ้าเด็กนี่ สงสัยจะโดนใจพี่โอ๋ (55 ผมนึกขำในใจ) ระหว่างที่ผมกำลังนั่งมองหน้าน้องมันเพลิน ๆอยู่นั้นจู่ ๆ เจ้าเด็กนี่ก็ร้องไห้ขึ้นมาเสียเฉยๆ บางครั้งก็ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด จนผมต้องย้ายที่นั่งจากเตียงข้างๆเป็นมานั่งเตียงเดียวกับน้อง ก่อนจะค่อยๆยื่นนิ้วไปกดที่หัวคิ้วของน้องให้คลายออกจากการขมวดคิ้ว แต่น้ำตาก็ยังคงไหลอยู่ที่หางตาไม่หยุด ผมค่อยๆเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้น้องอย่างแผ่วเบา แต่น้ำตาของน้องก็ยังคงไหลไม่หยุด ผมจึงเปลี่ยนจากเช็ดน้ำตาให้เป็นลูบที่ศีรษะของน้องอย่างปลอบโยน จนน้ำตาที่ไหลไม่หยุดเมื่อครู่ค่อยๆหายไป “ไม่เป็นไรแล้วนะ พี่อยู่ข้างๆนายตรงนี้แล้วไง หยุดร้องได้แล้ว” ฝุ่นพูดพร้อมกับลูบศีรษะของน้องคนที่นอนไปพร้อมกันด้วย ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ผมพูดประโยคนั้นออกมา แต่ทันทีที่ผมทำแบบนั้นอาการของน้องก็สงบลง จนกลับมามีลมหายใจสม่ำเสมอตามปกติของคนกำลังอยู่ในห้วงนิทราไม่นานพี่โอ๋ก็มาถึง ผมจึงขอตัวกลับก่อนปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพี่โอ๋ดูแลไอ้ตัวยุ่งนี่ต่อไป หลังจากออกมาจากห้องพยาบาลของคณะแล้วผมก็มุ่งหน้าไปยังร้าน Crown Café ร้านอาหารพ่วงร้านกาแฟของพี่ภัทร รุ่นพี่ในมหาวิทยาลัยของผม ดีกรีหนุ่มว่าที่เกียรตินิยมอันดับ 1 คณะทันตแพทย์ พ่วงด้วยตำแหน่งเจ้านาย เพราะพี่ภัทรเป็นถึงเจ้าของร้านอาหารแห่งนี้ด้วยนั้นเอง และเนื่องจากตอนนี้พี่แกก็อยู่ปีสี่แล้ว แกเลยมีเวลามาดูแลร้านมากขึ้น นอกจากพี่ภัทรจะเปิดร้านอาหารแห่งนี้แล้ว พี่ภัทรยังรับเป็นติวเตอร์สอนวิชาคณิตศาสตร์ด้วย ณ ร้าน Crown Café [ ภัทร ] “อ้าวฝุ่น ทำไมวันนี้มาช้ากว่าทุกทีล่ะ” พี่ภัทรตะโกนถามผมมาจากหลังเคาน์เตอร์ [ ฝุ่น ] “มีเรื่องนิดหน่อยครับพี่”ผมพูดตอบพี่ภัทร พร้อมกับเดินเอากระเป๋าไปเก็บที่หลังร้าน ก่อนจะกลับออกมาพร้อมผ้ากันเปื้อนที่ผูกอยู่ที่เอว “เกิดอะไรขึ้นไหนเล่าให้พี่ฟังสิ ร้ายแรงหรือเปล่า” พี่ภัทรถามผมทันทีที่ผมออกมาจากด้านหลังร้านอย่างเป็นห่วง พร้อมกับจับตัวของผมพลิกไปพลิกมาเพื่อสำรวจหาความผิดปกติ จนผมต้องร้องห้าม “หยุดก่อนครับพี่ภัทร ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรหรอกพี่ แค่มีเด็กปีหนึ่งคนหนึ่งคณะอะไรก็ไม่รู้มาเป็นลมอยู่ในลิฟท์ของคณะผม เดือดร้อนให้ผมต้องพาไปส่งที่ห้องพยาบาลของคณะ แล้วยังต้องอยู่เฝ้าอีกพักใหญ่ กว่าพี่โอ๋จะกลับจากไปทำธุระ ผมเลยมาช้าครับ” ผมเล่าให้พี่ภัทรฟังเป็นฉากๆ จนพี่แกถึงกลับถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ผมกับพี่ภัทรเรารู้จักกันตั้งแต่ผมเข้าปีหนึ่ง ตั้งแต่ที่ครอบครัวอุปการะของผมเสียไป ชีวิตที่ไร้หลักยึดในตอนนั้นทำให้ผมเซไปเหมือนกัน ดีที่ได้พี่ภัทรช่วยไว้ ตอนนั้นผมคิดว่าชีวิตนี้ผมจะทำยังไงต่อ จะเดินยังไง จะเรียนยังไง แต่ความโชคร้ายผ่านไป ความโชคดีในชีวิตผมก็มาเจอพี่ภัทรแหล่ะหาห้องเช่าถูกๆให้ผม ชวนผมมาทำงานพิเศษที่นี่เพื่อให้ผมสามารถหาเงินเลี้ยงดูตัวเองได้หลังจากที่ผมต้องกลับมาเหลือตัวคนเดียวอีกครั้ง ทำให้ผมรู้สึกเหมือนพี่ภัทรคือพี่ชายแท้ๆของผมคนหนึ่ง ที่ผมสามารถไว้ใจ และยอมเล่าทุกเรื่องให้พี่ภัทรฟัง ส่วนพี่ภัทรเองก็รักและเอ็นดูผมเหมือนเป็นน้องแท้ๆเช่นกัน [ ภัทร ] “ค่อยยังชั่วหน่อย พี่นึกว่าเกิดเรื่องร้ายแรงอะไรขึ้นกับนายเสียอีก นายไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว งั้นเดี๋ยวพี่ฝากดูร้านต่อหน่อยนะ เดี๋ยวเด็กๆที่เป็นลูกศิษย์พี่จะมาแล้ว” พูดจบพี่ภัทรก็ไปยังโซนด้านในของร้านที่จัดไว้สำหรับติวคณิตศาสตร์ของพี่ภัทร “ได้ครับ” ผมรับคำไปเบาๆก่อนจะไปประจำที่ยังด้านหลังเคาน์เตอร์เพื่อรอต้อนรับลูกค้าคนต่อไปที่จะเข้ามา กรุ้งกริ้ง!! กรุ้งกริ้ง!! เสียงสัญญาณหน้าประตูร้านดังขึ้น ผมจึงกล่าวต้อนรับไปเบาๆ “ร้าน Crown Café ยินดีต้อนรับครับ” หลังจากผมกล่าวต้อนรับจบลูกค้าที่เข้ามาใหม่ก็เดินตรงมาที่เคาน์เตอร์เพื่อสั่งอาหารและเครื่องดื่ม แต่จนแล้วจนรอดลูกค้าที่มาใหม่ก็ไม่ยอมสั่งอะไร เอาแต่ยืนชะเง้อคอมองหาใครบางคนอยู่จนผมต้องถาม “มีอะไรให้พี่ช่วยไหมครับน้อง” ดูจากการแต่งตัวน่าจะอยู่ปีหนึ่งแน่นอน [ แท็ป / ฝุ่น ] “นี่พี่ๆ พนักงานร้านอีกคนไปไหนแล้วล่ะครับ” ลูกค้าท่านนี้ถามกลับ หลังจากผมถามออกไป “ที่ร้านนี้มีพนักงานทั้งหมด 4 คน คุณลูกค้าหมายถึงคนไหนครับ” ผมถามกลับ “ที่นี่มีพนักงานที่เป็นผู้ชายกี่คนครับนอกจากพี่” “ถ้าไม่รวมพี่ก็มีพี่ภัทรที่เป็นเจ้าของร้านอีกคนหนึ่ง คุณลูกค้ามีธุระอะไรกับพี่ภัทรหรือป่าวครับ” “เรียกผมแท๊ปก็ได้พี่ เรียกคุณลูกค้าแล้วผมจั๊กจี้นะ แล้วพี่ชื่ออะไรครับ” แทนที่น้องจะตอบคำถามผมกลับถามชื่อผมแทน “พี่ชื่อฝุ่น เรียกพี่ฝุ่นก็ได้ครับน้องแท็ป แล้วเรามีธุระอะไรกับพี่ภัทรอย่างนั้นหรือ” “เมื่อเช้าผมลืมของไว้ที่พี่ภัทร ตอนนี้เลยจะมาขอรับคืนน่ะครับ” น้องแท็ปตอบ “พี่ภัทรกำลังติวเลขให้กับนักเรียนอยู่ครับ ของอะไรล่ะเดี๋ยวพี่ไปหยิบให้ พี่ภัทรน่าจะเก็บไว้ที่หลังร้านแหละ” Rrrr…Rrrr น้องแท็ปยังไม่ทันตอบคำถามของผม โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของน้องก็ส่งสัญญาณว่ามีสายเข้ามาเสียก่อน ผมจึงพยักหน้าให้น้องรับสายที่โทรเข้ามาเสียก่อน [แท็ปมึงอยู่ไหนวะ…เสียงยูโรมาจากต้นสาย] “ฮะโหล ฮะโหล อืม…กูอยู่ร้านแถวหอไอ้โนบิมัน มีไรวะยูโร” [ดีเลยมึงไอ้โนบิ มันเป็นลมตอนนี้อยู่ที่ห้องพยาบาลของคณะวิศวะ มึงไปรับมันแล้วมาส่งมันที่หอหน่อยสิ] “ฮะ…เป็นลมตึกวิศวะ อ้อได้ๆ” แท็ปรับคำ “เอองั้นแค่นี้ก่อนนะใกล้จะถึงคิวซื้อบัตรคอนเสิร์ตปรมาจารย์ลัทธิมารแล้ว” ยูโรตัดบทเฉยเลย หลังจากวางสายน้องแท็ปก็หันมาคุยกับผมต่อ [แท็ป] “เดี๋ยวไว้ผมมารับของกับพี่ภัทรวันพรุ่งนี้ก็ได้ครับ พอดีเพื่อนผมมันเป็นลมเดี๋ยวผมต้องรีบไปรับมันก่อน งั้นผมไปก่อนนะครับ” ยังไม่ทันที่ผมจะตอบรับหรือปฏิเสธน้องแท็ปก็วิ่งหายออกไปจากร้านเสียแล้ว “เป็นลมอย่างนั้นหรือ หวังว่าจะไม่ใช่ไอ้ตัวยุ่งนั้นหรอกนะ” ฝุ่นบ่นกับตัวเองคนเดียวก่อนจะหันไปต้อนรับลูกค้าคนใหม่ที่กำลังเดินเข้ามา เพราะผมมัวแต่คิดว่าเพื่อนของน้องแท็ปที่เป็นลมจะใช่ไอ้ตัวยุ่งนั้นหรือไม่ ผมก็ใช้เวลาอีกประมาณ 10 วิ จนไม่ได้รู้ถึงการมาถึงของลูกค้าสาวรายใหม่ที่มายืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ของผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ จนลูกค้ารายนี้ต้องร้องเรียกผมออกมาเบาๆด้วยท่าทียิ้มๆ ที่เห็นผมเหม่อ [ ก็อปปี้ ] ดาวคณะนิเทศฯ ปี 2 “อะ…เออ…พี่คะ” “….” ฝุ่นยังคงไม่รู้สึกตัว เหม่อมองไปทางประตูทางเข้าออกร้าน “พะ…พี่…คะขอสั่งน้ำพี่หน่อยค่ะ” เท่านั่นแหละผมถึงได้ตื่นจากภวังค์ [ฝุ่น] “ขอโทษครับ พี่มัวคิดอะไรเพลินไปหน่อย น้องก็อปปี้จะรับอะไรดีครับ” ผมกล่าวขอโทษพร้อมกับถามกลับไปลูกค้ารายนี้คือน้องก็อปปี้ดาวคณะนิเทศศาสตร์ปีที่แล้วนั่นเอง ด้วยการที่ต้องทำงานบริการทำให้ผมต้องพยายามจำหน้าลูกค้า รวมถึงความชอบของลูกค้าให้ได้มากที่สุดเพื่อความประทับใจของลูกค้าซึ่งจะนำมาซึ่งรายได้งามๆของร้าน “แล้ววันนี้น้องก็อปปี้จะรับอะไรดีครับ เดี๋ยวพี่ทำให้สุดฝีมือเลย” “ขอบคุณค่ะพี่ฝุ่น” สาวสวยกล่าวขอบคุณด้วยท่าทีเขินๆพร้อมกับทำท่าคิดเล็กน้อยก่อนจะตอบออกมาว่าอยากทานอะไร “ก็อปปี้ขอกาแฟเย็นที่อร่อยที่สุดในโลกที่นึงเหมือนเดิมแล้วกันค่ะ” “งั้นเชิญน้องก็อปปี้ไปรอที่โต๊ะก่อนเลยครับเดี๋ยวพี่นำไปเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ” ฝุ่นทำคาปูชิโน่ หวานน้อยให้ลูกค้าคนสวยอย่างตั้งใจ ทางด้านของก็อปปี้เธอคือลูกค้าประจำ ทุกครั้งที่เดินเข้ามาแน่นอนคนที่เธอแอบมองคือผู้ชายชื่อฝุ่น ขวัญใจสาวๆ หนุ่มๆ ในมหาลัย…แล้วยิ่งมาเจอร้อยยิ้มของพี่ฝุ่นเมื่อครู่นี้อีกเล่นเอาเธอถึงกับหน้าแดงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว แต่ด้วยความที่เธอเป็นดาวคณะขั้นดาวมหาลัยฯ ส่วนฝุ่นผู้ชายธรรมดาที่เจอเรื่องราวมาในชีวิตมากมาย ทำให้ฝุ่นไม่เคยคิดเรื่องที่ไกลเกินฝันกับผู้หญิงที่สวยระดับดาวคณะแน่นอน “รักแรกพบคงใช้ไม่ได้ แต่ถ้าแอบปลื้มผู้ชายแสนอบอุ่นมาตลอดหนึ่งปีอันเนี้ยะคือใช่” ก๊อปปี้คิดกับตัวเองในใจจนอดยิ้มกับตัวเองไม่ได้ พอดีกับที่ฝุ่นเอาคาปูชิโน่ หวานน้อยมาเสิร์ฟที่โต๊ะพอดี เธอถึงกับส่งยิ่มให้ฝุ่นไปแบบเขินๆ แต่ฝุ่นกลับไม่รู้ตัวหรอกว่า หน้านิ่งๆ หล่อๆ และรอยยิ้มอบอุ่นของฝุ่นจะทำให้สาวน้อยคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ หลงรักมากขึ้นทุกวัน ทุกวัน กับการต้องสูญเสียคนที่รักหลายครั้งหลายครา ทำให้ฝุ่นไม่เคยคิดจะรักใครอีก ไม่ศรัทธาในความรัก ไม่ศรัทธาในวันแห่งความรักทั้งๆที่วันที่ 14 ก.พ. คือวันคล้ายวันเกิดของตัวเองเสียด้วยซ้ำ แต่ฝุ่นกลับเกลียดมันเพราะวันนี้ทำให้เขาต้องสูญเสียคนที่รักไปหมดจนไม่เหลือใคร และเขาไม่อยากเจ็บอีกแล้ว เพราะแบบนี้เขาถึงไม่เคยคิดจะรักใครอีกเลย [ ภัทร ] “ฝุ่น” พี่ภัทรเรียกชื่อผมอย่างดังจนผมถึงกับสะดุ้ง “โหยพี่ภัทรผมตกใจหมด” ผมต่อว่าพี่ภัทรไปไม่จริงจังนัก “พี่เรียกเราตั้งนานไม่ยักจะได้ยิน พี่ถึงต้องเรียกเราเสียงดังนี่ไง แล้วนี่เป็นอะไรพี่เห็นนั่งเหม่อมาสักพักละ” “ผมคิดอะไรเพลินๆไปหน่อยน่ะครับ” ผมตอบพี่ภัทรไปก่อนจะรีบกลับไปทำงานต่อเมื่อลูกค้าเริ่มเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ และเพราะร้านของพี่ภัทรขายอาหารด้วยลูกค้าจึงมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะช่วงเย็นๆแบบนี้ ทำให้ผมไม่มีเวลาคิดถึงอะไรอีก ก้มหน้าก้มตาต้อนรับลูกค้าไปเรื่อยๆ ดีหน่อยที่ตอนนี้พนักงานของร้านอีกสองคนมาสมทบแล้ว ทำให้ผมกับพี่ภัทรไม่ต้องคอยดูแลลูกค้ากันแค่สองคน [ ฝุ่น ] “เออ…พี่ภัทรตอนที่พี่ภัทรกำลังติวหนังสืออยู่มีรุ่นน้องคนหนึ่งรู้สึกจะชื่อน้องแท็ปนะมาถามหาพี่บอกว่าลืมของไว้นะ แต่พอดีน้องต้องรีบไปทำธุระเลยบอกว่าจะกลับมารับของที่พี่วันหลัง” ผมเล่าเรื่องน้องแท็ปให้พี่ภัทรฟัง “น้องแท็ป”พี่ภัทรทำท่านึกก่อนจะร้องอ๋อ…ออกมา “เจ้าเด็กเรื่องมากคนนั้นน่ะหรอ” พี่ภัทรถาม “ไปว่าน้องเขา ผมก็เห็นน้องก็ดูปกติดีไม่เห็นจะเรื่องมากตรงไหน ออกจะน่ารักเสียด้วยซ้ำ” “น่ารักกับผีน่ะสิ เด็กบ้าอะไรก็ไม่รู้พอพี่บอกว่าร้านของพี่เสิร์ฟอาหารให้ตามกรุ๊ปเลือด ก็บ่นหาว่าร้านพี่เรื่องมาก พอพี่ทำอาหารตามกรุ๊ปเลือดมาให้ก็เขี่ยทั้งบอคโครี่ ทั้งแครอทออก แล้วก็ร่ำๆบอกอยากจะกินเนื้อสัตว์ พอพี่บอกว่าเนื้อสัตว์ไม่เหมาะกับคนเลือดกรุ๊ปเอ เด็กนั้นตอบพี่ว่าไงรู้ไหม” “…” ผมไม่ตอบทำเพียงส่ายหน้าว่าไม่รู้พร้อมกับตั้งใจฟังพี่ภัทรเล่าต่อ “งั้นผมไม่เลือดกรุ๊ปเอล่ะ ผมขอเปลี่ยนเป็นเลือดกรุ๊ปโอแทนแล้วกัน แบบนี้ผมก็ทานเนื้อสัตว์ได้แล้วใช่ไหม” พี่ภัทรเลียนแบบท่าทางและประโยคของน้องแท็ปพร้อมกับท่าทางที่น้องตอบจนผมหลุดขำออกมากับท่าทางที่พี่ภัทรทำ “ดูสิดูมันตอบพี่ กวนชิพเป๋ง” พี่ภัทรบ่นไปก็เช็ดโต๊ะไป [ฝุ่น] พี่ภัทรจะรู้ไหมเนี่ยว่าปากบอกว่าน้องแท็ปเป็นเด็กไม่น่ารัก ว่าน้องเค้าเรื่องมาก แต่พี่ภัทรกลับจำเรื่องของน้องได้ทุกอย่างทั้งกิริยาและท่าทาง รวมถึงการพูดจา งานนี้พี่ภัทรเจอ ลูกค้าที่ตัวแสบเข้าแล้วล่ะ ผมว่างานนี้น้องแท็ปเจอดีเข้าแล้ว สองคนพี่น้องคุยกันแบบ สนุกสนาน โดยไม่รู้ว่า เด็กปี 1 ทั้งสองคนนี้จะเข้ามาทำให้ชีวิตปั่นป่วนไม่น้อย ผมชื่อภัทรครับ คณะครุศาสตร์ปี 4 ชีวิตผมก็เรียบ ๆ ครับไม่ต้องคิดอะไรเยอะ เรียน ทำงาน ทำงาน เรียน แล้วก็ทำงานที่รักแบบนี้ ผมเป็นคนรักสุขภาพครับ เมื่อก่อนผมเป็นคนอ้วนมาก่อนน้ำหนักเกือบ 100 กิโลครับ แต่ทำไมตอนนี้เปลี่ยนได้ขนาดนี้นะหรอ ก็ตอนปี 2 มันอกหักซิครับ มันดราม่านะครับ เรื่องก็คือกับแฟนที่คบกันมา 5 ปี พอผมขึ้นปี 2 เค้าก็ต้องดรอปไปก่อน ไม่ต้องงงนะครับ ไปแต่งงานน่ะครับ ผมก็ไม่อยากพูดเหตุผลอะไรมาก…มันเรื่องของเค้า พูดไปเค้าก็จะเสียหาย เอาเป็นว่าเลิกกันฟ้าผ่า….พอหลังจากเจอเหตุการณ์ประมาณนั้น ผมก็เลยมีเป้าหมายในชีวิตมากขึ้น และที่สำคัญผมเข็ดกับผู้หญิงแล้วล่ะครับ ตอนนี้ผมว่าผู้ชายสมัยนี้น่ารักกว่าเยอะ…แต่ผมไม่มีเวลาไปจีบใครหรอกครับ ก็มีคนมาจีบผมเยอะเหมือนกันนะ บางคนเข้ามาก็แว็บ ๆ ก็หายไป ส่วนคนไหนที่ผมชอบ ผมก็ได้แค่มอง… ส่วนไอ้เด็กผีเมื่อเช้าที่เรื่องมาก เรื่องมาก คนที่ชื่อแท็ปนะหรอ ผมว่าผมเจอคู่ปรับเข้าแล้ว ถ้าเจอครั้งหน้าโดนผมแกล้งแน่นอน “เด็กอะไร…ง็อกแง็ก และยังหัวหมออีก.” ไอ้ตัวแสบเอ้ย… ถ้าใครอยากทานอาหารเมนูสุขภาพอร่อย ๆ เครื่องดื่มจากพ่อค้าแซ่บ ๆ อย่างผม 2 คน [ของดีในมอ..ก็ผม 2 คนนี่แหล่ะ55] อย่าลืมแวะมาที่ร้าน Crow Café ประตูหลังตึก 5 นะครับ มาประตูหน้าไม่เจอน๊า… สาวๆ หนุ่มๆ ที่มาร้านผม ผมรับรองการบริการระดับพรีเมี่ยมที่เราได้ 5ดาวจากมหาลัยฯการันตี ใครที่มาก็จะติดใจทุ๊กราย …แวะมาหากันนะคร๊าบ RELATED ARTICLESMORE FROM AUTHOR ตอนที่ 30.5 “หัวใจที่เต็มไปด้วยความรักทุกรูปแบบย่อมทำให้เกิดปาฏิหาริย์แห่งความรัก” ตอนที่ 30.4 “หัวใจของฝุ่น ทุกครั้งที่ผมรักใครผมจะสูญเสียคนที่ผมรัก แต่ครั้งนี้ผมได้อยู่กับคนที่ผมรักตลอดไป” ตอนที่ 30.3 “แท็ปคือหัวใจของภัทร ทุกๆครั้งที่มองไปบนฟ้าจะเห็นรอยยิ้มของเรา” ตอนที่ 30.2 “หัวใจของซัน พี่ที่ขอทำเพื่อน้องเพียงสักครั้งเพื่อแก้ไขทุกอย่าง” ตอนที่ 30.1 “หัวใจของฮอน องค์รักษ์ที่พร้อมจะรักอย่างไม่มีเงื่อนไข”